เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2557 คณะกรรมการรางวัลโนเบลได้มอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2014 ให้กับมาลาลา ยูซาฟไซ (Malala Yousafzai) เด็กสาววัย 17 ปีชาวปากีสถาน นักเคลื่อนไหวเพื่อการศึกษาของเด็กและสตรีในการเข้ารับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกับผู้ชายในสังคมตอลีบาน ประเทศปากีสถาน ที่ยังคงมีการห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิงเรียนหนังสือในโรงเรียน ซึ่งเธอเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาตั้งแต่อายุได้ 12 ปี สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ก่อการร้ายตอลีบานจนเธอเกือบเสียชีวิตจากการถูกมือปืนตอลีบานยิงในระยะเผาขน ขณะที่เธอกำลังนั่งรถโรงเรียนกลับบ้าน ในเดือนตุลาคม 2555
เธอเคยได้รับรางวัลเยาวชนเพื่อสันติภาพแห่งชาติ (National Youth Peace Prize 2011) รางวัลสิทธิมนุษยชนเพื่ออิสรภาพของผู้หญิงนานาชาติ (Simone de Beauvoir Prize, International Human Rights Prize for Women’s Freedom 2013) และนิตยสารไทม์ได้จัดให้เธอเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในปี 2012
น่าสนใจเป็นอบ่างยิ่งว่าพ่อของมาลาลา มีวิธีการเลี้ยงลูกอย่างไร ? ไซอุดดิน ยุซาฟไฟ (Ziauddin Yousafzai) พ่อของมาลาลา ได้พูดไว้บนเวที TED Talk เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งมียอดผู้เข้าชมจนถึงปัจจุบันกว่า 1,288,438 ครั้ง และนี่คือประโยคทิ้งท้ายของไซอุดดิน
People ask me, what special is in my mentorship which has made Malala so bold and so courageous and so vocal and poised? I tell them, don’t ask me what I did. Ask me what I did not do. I did not clip her wings, and that’s all. – Ziauddin Yousafzai, Malala’s Father.
คนมากมายถามผมว่า “มีอะไรพิเศษในการเลี้ยงดูของผมที่ทำให้มาลาลาพร้อมที่จะสู้ มีความกล้าหาญ กล้าที่จะแสดงความเห็น และมีสติ”
ผมตอบพวกเขาว่า “อย่าถามเลยว่าผมทำอะไร ถามสิว่าผมไม่ได้ทำอะไร”
“ผมแค่ไม่ได้ตัดปีกของเธอออก ก็แค่นั้นเอง” – ไซอุดดิน ยูซาฟไซ, พ่อของมาลาลา.
ผู้เขียนได้รับฟังคำแนะนำให้ดู Clip VDO การพูดบนเวที TED Talk ของไซอุดดิน ยุซาฟไฟจากอาจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติ ในงานเสวนาเปิดตัวหนังสือ “โจนาทาน ลิฟสวิงตัน: นางนวล ฉบับสมบูรณ์ ภาคสี่ ค้นพบใหม่” ผลงานแปลโดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ที่จัดขึ้นโดย “สำนักพิมพ์จินด์” ณ ห้องโถง สำนักหอสมุดปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา
ประโยคที่ว่า “ผมแค่ไม่ได้ตัดปีกของเธอออก ก็แค่นั้นเอง” ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าโจนาทาน นางนวลที่รักการบินเหนือสิ่งอื่นใด
สำหรับนางนวลทั่ว ๆ ไป การกินนั้นสำคัญกว่าการบิน แต่สำหรับโจนาทานนั้นการกินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญไปกว่าการบิน มันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกบิน การทำตัวแตกต่างจากนกทั่วไปทำให้มันไม่เป็นที่ชอบพอในหมู่นกด้วยกัน แม้แต่พ่อแม่ของมันเองก็ไม่พอใจ
แม้โจนาทานจะฝึกฝนจนค้นพบวิธีการบินใหม่ ๆ จนกลายเป็นนางนวลตัวแรกที่บินกายกรรมบนอากาศก่อนนางนวลตัวใด ๆ ในโลก และสามารถบินได้เร็วถึง 214 ไมล์ต่อชั่วโมง จนคิดไปเองว่า นางนวลตัวอื่น ๆ จะชื่นชมในความสำเร็จ และตื่นเต้นดีใจด้วย
แต่เปล่าเลย เจ้าโจนาทานกลับถูกนกผู้ใหญ่ต่อว่าว่า “…ทำลายเกียรติภูมิ และประเพณีของตระกูลนางนวล…เรามาอยู่ในโลกนี้เพียงเพื่อกิน และพยายามมีชีวิตอยู่ให้ยืนยาวเท่าที่เราจะทำได้…”
โจนาทานถูกขับไล่ออกจากฝูง และถูกขับให้ไปมีชีวิตเดียวดายที่หน้าผาโพ้น
หลังจากนั้นโจนาทานก็ได้ไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ กับนางนวลฝูงใหม่ที่มีจำนวนน้อยกว่าเดิม แต่นางนวลที่นี่คิดเหมือนกันกับที่โจนาทานคิด คือ การไขว่คว้าและสัมผัสความเป็นเลิศในสิ่งที่รักที่จะทำ สิ่งนั้นคือการบิน และโจนาทานก็ได้ฝึกฝนการบินเพิ่มเติมกับครูผู้สอนซัลลิแวน และนางนวลผู้ใหญ่เจียง ซึ่งทำให้โจนาทานได้เรียนรู้หลายอย่าง
“…เป็นการถูกต้องสำหรับนางนวลที่จะบิน ว่าอิสรเสรีเป็นธรรมดาที่แท้จริงของตนเอง ว่าอะไรที่มาขวางกั้นอิสรเสรีภาพจะต้องโยนทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรม ความเชื่อโชคลาง หรือข้อจำกัดไม่ว่าจะมาในรูปใด…”
เฉกเช่นเดียวกันสิ่งที่ไซอุดดิน ยุซาฟไฟ กล่าวไว้ “ผมแค่ไม่ได้ตัดปีกของเธอออก ก็แค่นั้นเอง” ได้สะท้อนให้เห็นเลยว่า “เพียงคุณเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกของคุณ ไม่ขวางกั้นอิสรเสรีภาพทางความคิดของเขา ด้วยการเอาความคิด ความเชื่อ ค่านิยมที่คุณยึดถือไปครอบงำเขาไว้ เหมือนดั่งการตัดปีกของเขาออก เมื่อนั้นศักยภาพที่มีอยู่ของเขาจะเปล่งประกายอย่างที่เป็น”
สำหรับผู้สนใจหนังสือ “โจนาทาน ลิฟสวิงตัน: นางนวล ฉบับสมบูรณ์ ภาคสี่ ค้นพบใหม่” สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน House of Commons – Cafe&Space ถ.เจริญนคร (ระหว่างซอยเจริญนคร 20 และ 22) http://www.facebook.com/HOCSpace โทร.082-983-8099
“นายเรียนรู้”
วิทยากร และที่ปรึกษา
A@LERT Learning and Consultant
มือถือ 086-7771833
E-mail : boonlert.alert@gmail.com
Facebook : นายเรียนรู้
Line ID : @lert
www.nairienroo.com
