ห้องแต่งผมไมเต้

“ห้องแต่งผมไมเต้”

โลกของหนังสือ คือ โลกแห่งจินตนาการ โลกที่จำลองสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงในสังคม วรรณกรรมเยาวชนเป็นหนังสือประเภทหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของคนหลาย ๆ คน ให้หลงใหลในการอ่านหนังสือ

“ห้องแต่งผมไมเต้” ผลงานของ มารี-โอ๊ด มูรัย ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย โดย เย็นตา จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา เป็นวรรณกรรมเยาวชนเรื่องหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้หยิบมาอ่านแล้ววางไม่ลง ต้องอ่านรวดเดียวจนจบ

เรื่องราวที่ชวนติดตามของเด็กหนุ่มชั้น ม.3 “หลุยส์ เฟรีแยรส์” ที่ต้องไปฝึกงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เหมือนกับนักเรียนคนอื่น ๆ ซึ่งตัวเขาเองเลือกที่จะไปฝึกงานที่ “ห้องแต่งผมไมเต้” ตามคำแนะนำของคุณยาย ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้หลุยส์ ได้ค้นพบความชอบ พรสวรรค์ของตัวเองในการเป็นช่างทำผม ช่างเป็นช่วงเวลาการฝึกงานที่มีความสุข แม้ว่างานจะแสนเหน็ดเหนื่อย แต่เขาก็ขยันขันแข็ง กระตือรือร้น และตรงต่อเวลา ตลอดระยะเวลาในช่วงการฝึกงาน จนทำให้เขาอยากทำงานที่ “ห้องแต่งผมไมเต้” ต่อไปเรื่อย ๆ และไม่อยากที่จะกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอีกแล้ว เพราะตัวเขาเองเรียนไม่เก่งสักวิชา

ทางด้านเมอสิเยอร์เฟรีแยรส์ พ่อของหลุยส์ ที่มีอาชีพเป็นศัลยแพทย์นั้น มีทัศนคติเชิงลบต่ออาชีพช่างทำผม ถึงกับเคยปรามาสไว้ว่าอาชีพทำผมน่ะรึ มันเป็นอาชีพสำหรับคนที่ล้มเหลว คนที่ไม่รู้หนังสือ พ่อของหลุยส์ก็เหมือนพ่อคนอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป ที่มีความรัก และความปรารถนาดีต่อลูก หาคุณครูมาสอนพิเศษในวิชาต่าง ๆ ให้กับลูกเพื่อหวังให้ลูกเรียนเก่ง ๆ สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้

“ในนามของความรัก” พ่อแม่หลายคนก็เผลอทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว

“ในนามของความกลัว” ลูกหลายคนยอมให้พ่อแม่ร่างพิมพ์เขียวชี้อนาคตและกำหนดความฝันของตัวเองโดยไม่โต้แย้ง

ปมขัดแย้งระหว่างการเดินตามความฝันของตัวเองของหลุยส์ และความปรารถนาดีของเมอสิเยอร์เฟรีแยรส์ ผู้เป็นพ่อจะจบลงอย่างไร ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านลองไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านดู สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน House of Commons – Café&Space ถ.เจริญนคร (ระหว่างซอยเจริญนคร 20 และ 22) ตรงข้ามปั๊ม Shell หรือร้านหนังสือทั่วไป

หนังสือเล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่ต้องการค้นหาตนเอง ว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเองมีความสามารถ หรือพรสวรรค์ในด้านใด โดยที่ไม่ยอมให้ค่านิยมของสังคม หรือความคาดหวังของผู้เป็นพ่อแม่มาเป็นตัวกำหนดอนาคตของตัวเอง ผู้เขียนเองก็เคยโดนตีกรอบจากค่านิยมทางสังคมว่าเด็กที่เรียนเก่ง ต้องเรียนต่อมัธยมปลายในสายสามัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายวิทยาศาสตร์ และเมื่อจบแล้วก็ต้องสอบ Entrance ให้ได้คณะวิศวกรรมศาสตร์ ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีความชอบในวิชาชีพนี้จริง ๆ

นอกจากนี้แล้วหนังสือเล่มนี้ยังเหมาะสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าแท้ที่จริงแล้ว “เด็กแต่ละคน มีความสามารถ และพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน” การวัดความรู้ในรายวิชาต่าง ๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การทำความเข้าใจ การพูดคุยกับเด็ก ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนผลักดันให้เด็กได้ใช้ความสามารถ พรสวรรค์ของเขาอย่างเต็มศักยภาพ มากกว่าที่จะเป็นผู้กำหนดชี้ทิศทางให้เด็กเดินตาม

ในส่วนของหลักสูตรการศึกษาก็จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะช่วยสนับสนุนผลักดันให้เด็กได้ค้นพบความสามารถตนเอง หากมีการจัดสรรช่วงเวลาที่จะให้เด็กได้เรียนรู้วิชาชีพต่าง ๆ อันเป็นประตูเปิดสู่โลกกว้าง มากกว่าที่จะสร้างถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวให้เด็กทุกคนในระบบก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

นับเป็นโจทย์ใหญ่ และน่าท้าทายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย ที่จะทำอย่างไรให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบความสามารถ และได้ใช้พรสวรรค์ของตนเอง ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก

สิ่งที่อยากจะฝากไว้สำหรับเด็ก ๆ ก็คือ กุญแจสู่ความสำเร็จนั้น นอกเหนือไปจากการได้ค้นพบพรสวรรค์ของตนเอง ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักแล้ว ก็คือความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินตามความฝันนั้นจนประสบความสำเร็จ

หวังว่าเรื่องราวของ “ห้องแต่งผมไมเต้” จะเชื้อเชิญให้คนในครอบครัวหันหน้าเข้าหากัน รับฟังและพูดคุยกัน เพื่อปรับความเข้าใจ และความคาดหวังต่อกันและกัน จะได้ไม่จบลงด้วยบทสุดท้ายที่ว่า “พ่อแม่รังแกฉัน”

“นายเรียนรู้”

อาจารย์บุญเลิศ คณาธนสาร

วิทยากร และที่ปรึกษา

A@LERT Learning and Consultant

มือถือ 086-7771833

E-mail : boonlert.alert@gmail.com

Facebook : นายเรียนรู้

Line ID : @lert