วันนี้เป็นวันแรกที่ได้มาเรียนในหลักสูตร 3 วันในหลักสูตร “ภาวะการนำเพื่อการข้ามพ้น (Leadership for Transcendence)” ที่ สสส. ซอยงามดูพลี
ประเด็นที่ถูกหยิบขึ้นมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน Class ในวันนี้ คือ หัวข้อเรื่อง Intuition ซึ่งมีคำเรียกเป็นภาษาไทยว่า “ญาณทัศนะ” หรืออาจจะใช้คำว่า “ปัญญาญาณ” แต่จะใช้คำอะไรคงไม่สำคัญไปกว่าการทำความเข้าใจกับมัน
หากจะลองถามกับตัวเองว่าเรามี “Intuition” หรือไม่ ? สำหรับผมแล้วก็คงจะมีในเชิง Sense ที่สัมผัสกับผู้คนที่เข้ามาในชีวิต พิจารณาว่าคนไหนที่เราน่าคบค้าสมาคมด้วย คนไหนที่เราต้องวางตัวห่าง ๆ ไว้
หรือบางเรื่องมันมีความคิดที่ปิ๊งแว๊บเองขึ้นมาในหัวขณะที่เดินเล่นออกกำลังกายรอบหมู่บ้าน อยู่ดี ๆ ก็คิดได้
ถ้าจะถามว่าเชื่อไหมว่ามีเรื่อง “Intuition” ? ก็เชื่อและมั่นใจว่ามีอยู่จริง เพียงแต่ระดับการรับรู้ของแต่ละคน อาจจะมีต่าง ๆ กันไป
ถ้าจะให้อธิบายความหมายของคำว่า “Intuition” นั้น ผมมองว่าเราสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราได้ สามารถสัมผัสถึงพลังงานที่คนรอบข้าง บรรยากาศโดยรอบได้ หากเราลองใช้ความเงียบอยู่กับตัวเองนิ่ง ๆ ปิดการรับรู้ที่ใช้ประสาทสัมผัสปกติของเราไม่ว่าจะเป็นในรูป รส กลิ่น เสียง เมื่อนั้นจะมีสิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้รับรู้ได้ถึง “Intuition”
พอได้ไปเรียนรู้ในเรื่อง “Intuition” ในวันนี้ กลับมาที่ร้านก็เลยหยิบหนังสือ “ปัญญาญาณ (Intuition)” ของ OSHO มาพลิกอ่าน ก็อ่านเจอข้อความอยู่ท่อนหนึ่งที่น่าสนใจมาก
“เมื่อเราปล่อยให้ร่างกายทำงานไป…เรากำลังใช้สิ่งที่เรียกว่า “สัญญาตญาณ” เมื่อเราปล่อยให้จิตวิญญาณมีอิสระ…เราจะได้พบปะกับสิ่งที่เรียกว่า “ปัญญาญาณ” ถึงแม้ทั้งคู่ดูคล้ายคลึงกัน…แต่จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างจะห่างไกลกันมาก สัญชาตญาณเป็นเรื่องทางร่างกาย…เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและรู้สึกได้ชัด ปัญญาญาณเป็นเรื่องทางจิตวิญญาณ…เป็นสิ่งที่ไม่ชัด เป็นนามธรรม
ในท่ามกลางระหว่างทั้งสองสิ่งนี้ เป็นที่อยู่ของสิ่งที่เรียกว่า “ปรีชาญาณ” ปรีชาญาณเป็นผลงานของความคิด เป็นผลิตผลที่มาจากสมอง เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้ ไม่ได้เป็นอะไรที่จู่ ๆ เกิดขึ้นได้เอง”
“นายเรียนรู้”
วิทยากร และที่ปรึกษา
A@LERT Learning and Consultant
มือถือ 086-7771833
E-mail : boonlert.alert@gmail.com
Facebook : นายเรียนรู้
Line ID : @lert
www.nairienroo.com