“…เพราะเธอนั่นไง คือ เหตุผลที่ทำให้ฉันเชียน เป็นเพราะเธอส่ง ส่งใจมามาให้กัน แทนกระดาษดินสอ ด้วยรักที่คงมั่น ให้ฉันเขียนเป็นถ้อยคำถึงเธอ…” คือ เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง “เขียนให้เธอ” ผลงานของ พี่จิก-ประภาส ชลศรานนท์
เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนนึกถึง เวลาที่มีคนรู้จักมาถามว่า “เขียนหนังสือไปเพื่ออะไร…?”
ผู้เขียนก็มักจะเล่าถึงความปลื้มใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตัวเองก็มีแฟนคลับที่คอยติดตามงานอย่างสม่ำเสมอ บางคนก็เขียน E-mail มาพูดคุยด้วย บางคนก็ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับ Enneagram ที่ผู้เขียนได้เขียนแนะนำในคอลัมน์นี้ในช่วงแรก ๆ ไปปรับใช้กับน้องสาวแล้วทำให้เข้าใจกันมากขึ้น พอผู้เขียนได้เชิญอาจารย์วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิช มาจัดหลักสูตร “Lover Enneagram” ที่ร้าน House of Commons – Café&Space แฟนคลับท่านนั้นก็มาร่วมวงสัมมนาด้วย พร้อมเข้ามาพูดคุยกับผู้เขียนว่าได้ตัดคอลัมน์ที่ผู้เขียนเขียนเก็บไว้อ่านทุกครั้ง บางคนก็ชื่นชอบในแนวคิดเรื่องการศึกษา และวิธีการเรียนรู้คณิตศาสตร์จากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันของผู้เขียน ก็เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำไปพัฒนาโรงเรียนกวดวิชาของตนเอง และได้เดินทางไกลจากจังหวัดสกลนครเพื่อมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้เขียนในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
และเหตุผลอีกส่วนหนึ่ง ก็คือ เขียนเพื่อตัวเอง เพราะรู้สึกว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้ขีดเขียน…ถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งที่คิดให้กับผู้อ่าน นับเป็นความสุขที่สุดในชีวิตการทำงานที่ได้ทำหน้าที่นักเขียน นอกเหนือไปจากอาชีพวิทยากร และที่ปรึกษา
กว่าผู้เขียนจะค้นพบ “ตัวตนที่แท้จริง” ว่างานที่ชอบ คือ การเป็นนักเขียน วิทยากร และที่ปรึกษา วัยก็ล่วงเลยจนจะเข้าหลักสี่แล้ว
ตอนที่ผู้เขียนกำลังจะจบการศึกษาระดับ ม.6 ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ก็ลังเลตัดสินใจว่าจะเลือกเรียนคณะไหนดี สุดท้ายก็เลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพียงเพราะรู้สึกว่าจบแล้วน่าจะหางานได้ง่าย และมีรายได้ที่ดี พอจบมาก็สามารถสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานกับธุรกิจกระดาษฯ เครือซิเมนต์ไทยได้ ทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานอย่างสนุกสนาน ทำไปซักพักก็เริ่มเบื่อ จนเมื่อมีตำแหน่ง “Learning Facilitator” ที่ต้องไปเรียนรู้แนวคิดการศึกษาแบบ Constructionism ที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัย กับคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา เพื่อนำมาปรับใช้ในโครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของพนักงานธุรกิจกระดาษฯ เครือซิเมนต์ไทย ก็เลือกที่โอนย้ายไป เปลี่ยนบทบาทหน้าที่จาก “วิศวกรโรงงาน” มาเป็น “คุณครูพี่บุญเลิศ” ของเด็ก ๆ ที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัย 1 ปีเต็ม และก็กลับไปทำหน้าที่ “Learning Facilitator” ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาชีวิตที่มีความสุขกับการทำงานมาก ๆ เพราะได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ ความคิดเพื่อช่วยพัฒนาคนอื่น ๆ ก็เลยมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ “Learning Facilitator” อย่างเต็มที่
แต่แล้วเส้นทางอาชีพก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อถูกคำสั่งให้โอนย้ายไปรับผิดชอบในงานวิศวกรรมโครงการ แม้ตำแหน่งหน้าที่การงานจะสูงขึ้น แต่ความที่เริ่มรู้ตัวตนว่าชอบงานที่ได้ถ่ายทอดความรู้ ความคิดเพื่อช่วยพัฒนาคนอื่น ๆ ก็เลยตัดสินใจลาออกจากเครือซิเมนต์ไทย มาทำงานเครือเบทาโกรในตำแหน่ง “ผู้ช่วยผู้บริหารด้านวิศวกรรมเพิ่มผลผลิต” ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับโรงงานต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา CSR ด้านงานชุมชนสัมพันธ์ และได้มีโอกาสไปทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับมูลนิธิโครงการหลวง นับเป็นช่วงเวลาอีกช่วงหนึ่งที่มีความสุขกับการทำงานมาก ๆ เพราะได้ทำงานช่วยเหลือสังคมด้วย
จนเมื่อต้นปี 2556 ผู้เขียนได้รับการติดต่อให้เขียนบทความลงใน “กายใจ” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ก็เลยตอบรับทันที เพราะต้องการที่จะถ่ายทอดความรู้ และความคิดสู่คนอื่น ๆ ในวงกว้างขึ้น ซึ่งการได้มาขีดเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ลงในคอลัมน์นี้นั้น ทำให้ได้เรียนรู้ “ตัวตนที่แท้จริง” ของตนเองมากขึ้น ว่างานที่ชอบ และมีความสุขมากที่สุด ก็คือ การเป็น “นักเขียน” นั่นเอง
และในช่วงระหว่างปี 2556-2557 ผู้เขียนประสบภาวะเครียดเนื่องจากการทำงาน บางช่วงต้องหยุดทำงานบางอย่างไป แต่มีอยู่ไม่กี่งานที่ผู้เขียนยังสามารถที่จะทำหน้าที่ได้ดี รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ทำ ก็คือ งานเขียนบทความ และงานวิทยากร
ก็เลยตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งกลางปี 2557 ที่จะลาออกจากงานประจำ มาประกอบอาชีพอิสระเป็นวิทยากร เป็นที่ปรึกษา และเป็นนักเขียน นับเป็นเส้นทางเดินในชีวิตที่ยาวนานเกือบ 40 ปี กว่าจะค้นพบ “ตัวตนที่ใช่”
“กาลเวลานั้นเดินทางเป็นเส้นตรง แต่เส้นทางชีวิตคนเดินทางช่างคดเคี้ยว”
คงเป็นสิ่งที่สะท้อนเส้นทางชีวิตของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี และคงเป็นบทเรียนให้กับคนอื่น ๆ ได้เรียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ที่กำลังจะเลือกคณะสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่าจะสอบเข้าคณะไหนดี อย่าเลือกเพียงเพราะเป็นคณะยอดฮิต จบมาหางานง่าย ได้เงินดี หรือคนที่เริ่มทำงานแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่างานที่ทำนั้น คือ “อาชีพที่ใช่” หรือเปล่า ลองใช้เวลาในการถามใจตัวเองดูว่า อะไร คือ งานที่ชอบทำจริง ๆ อะไร คือ งานที่ทำแล้วมีความสุขสดชื่นทุกครั้ง
“Discover your way then your life is enjoy”
“นายเรียนรู้”
วิทยากร และที่ปรึกษา
A@LERT Learning and Consultant
มือถือ 086-7771833
E-mail : boonlert.alert@gmail.com
Facebook : นายเรียนรู้
Line ID : @lert
www.nairienroo.com