การวิเคราะห์สาเหตุรากเหง้าของปัญหา หรือที่เรียกว่า Root Cause Analysis นั้น มีเทคนิคในการตั้งคำถามที่นิยมใช้กัน ก็คือ การตั้งคำถามด้วยคำว่า “ทำไม-ทำไม?” ซึ่งมีการเรียกเทคนิคนี้ว่า “Why-Why Analysis” หรือ “5 Why Analysis” แล้วแต่จะเรียกกันไป
เมื่อลองมาวิเคราะห์ดูว่า เหตุใดเทคนิคการตั้งคำถามง่าย ๆ ด้วย “ทำไม-ทำไม?” แบบนี้ จึงเป็นที่นิยมกัน และใช้กันอย่างแพร่หลาย
เหตุผลหนึ่ง ก็คือ มันทำให้เราเข้าใจกลไกการเกิดขึ้นของปัญหา
ลองไปดูตัวอย่างการวินิจฉัยของแพทย์ต่อการเสียชีวิตของคนไข้รายหนึ่งที่ถูกมดตะนอยกัด
“สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น แพทย์ได้แจ้งให้ญาติทราบว่า กรณีถูกมดตะนอยกัดต่อยจนเสียชีวิต ถือเป็น 1 ในล้านของผู้ป่วยเท่านั้น และเป็นกรณีที่หาได้ยากมาก โดยคนที่มีอาการแพ้พิษ จะมีอาการหน้าดำ จะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก เนื่องจากเซลล์ปอดขยายตัวอย่างรุนแรง ทำให้ปอดไม่ทำงาน ไม่ฟอกเลือด ทำให้เกิดอาการช็อค เพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้เซลล์สมองตาย และเสียชีวิตในที่สุด”
ซึ่งถ้าหากเราลองวิเคราะห์ และถอดคำวินิจฉัยของแพทย์ออกมาเป็นลำดับ จะได้เห็นกลไกการเกิดปัญหาที่ทำให้คนไข้รายนี้เสียชีวิต ตามภาพ
จะเห็นได้ว่าเทคนิคการตั้งคำถามด้วยคำว่า “ทำไม-ทำไม?” จะทำให้เราเข้าใจกลไกการเกิดปัญหาได้อย่างชัดเจน
การวิเคราะห์สาเหตุรากเหง้าด้วย Why-Why Analysis ให้มีประสิทธิผลจนนำไปสู่ “มาตรการแก้ไข” ที่ป้องกันการเกิดซ้ำ มีจุดสำคัญในการวิเคราะห์ดังนี้
- สะสางปัญหาให้ชัดเจน
- ให้พิจารณาว่านอกจากสาเหตุที่ระบุ ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่ ?
- หลังจากวิเคราะห์ด้วย Why-Why เสร็จแล้ว ให้อ่านทวนย้อนกลับ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามหลักตรรกะ
- ให้ถามทำไมไปเรื่อย ๆ จนสามารถนำไปสู่มาตรการแก้ไข เพื่อป้องกันปัญหา ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมกับเทคนิควิเคราะห์สาเหตุรากเหง้าด้วย Why-Why Analysis ได้ในหลักสูตร “Root Cause Analysis”
“นายเรียนรู้”
วิทยากร และที่ปรึกษา
086-7771833
Line: @Lert
E-mail : boonlert.alert@gmail.com
www.nairienroo,com